ชื่อ : กะเพราแดง
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Ocimum tenuiflorum L.
ชื่อวงศ์ : Lamiaceae
ชื่อสามัญ : Red Holy basil, Thai basil
ชื่ออื่นๆ : กำก้อดำ กอมก้อ
ชนิด/ประเภท | เป็นไม้พุ่มเตี้ยความสูงประมาณ 1-3 ฟุต |
ต้น | ลำต้น เป็นพืชล้มลุก มีทรงพุ่ม ลำต้นเดี่ยว มีลักษณะกลมๆ โคนต้นสูงมีเนื้อแข็ง แตกกิ่งก้านสาขามาก มีขนปกคลุม มีสีเขียวอมขาว |
ใบ | ใบ เป็นใบเดี่ยว ออกตรงข้ามกัน ใบมีลักษณะทรงรี หรือรูปขอบขนาน ยาว 0.5-4.5 ซม. ก้านใบยาว 0.5-1.5 ซม. ขอบใบเป็นรอยหยักเล็กๆ ใบมีสีเขียวอมม่วงแดง หรือสีน้ำตาลอมแดง ใบด้านบนสีเข้มกว่าใบด้านล่าง มีก้านใบยาวรองรับ มีขนสีขาวเล็กๆ ปกคลุมใบบอบบาง ช้ำง่ายและเหี่ยวง่าย รสชาติเผ็ดร้อน มีกลิ่นหอมแรง มีกลิ่นฉุนเฉพาะตัว |
ดอก | ดอก ออกเป็นช่อ ก้านช่อดอกยาว ตั้งขึ้นคล้ายฉัตร มีดอกย่อยออกบริเวณปลายยอดและปลายกิ่ง ดอกย่อย มีลักษณะเล็กๆ รูปคล้ายระฆัง กลีบดอกมีสีขาวแกมม่วงแดง ช่อกระจุกรอบแกนช่อห่างๆ คล้ายช่อเชิงลด ยาวได้ถึง 10 ซม. ใบประดับรูปไข่ ยาว 2-3 มม. ก้านดอกขยายในผล ยาว 2.5-4 มม. กลีบเลี้ยงและกลีบดอกรูปปากเปิด หลอดกลีบเลี้ยงยาว 1-1.5 มม. ขยายในผล ยาว 3-4 มม. กลีบบนกลม กลีบล่างรูปใบหอก กลีบดอกสีชมพูอมม่วง หลอดกลีบดอกยาว 2-3 มม. กลีบบน 4 กลีบ กลีบล่าง 1 กลีบ ขนาดใหญ่กว่ากลีบบน เกสรเพศผู้สั้น 2 อัน ยาว 2 อัน ยื่นพ้นปากหลอดกลีบดอก โคนมีขนเป็นกระจุก รังไข่มี 4 พู |
ผล | ผล กลมเมื่อผลแก่แห้งแล้วจะแตกออก ภายในจะมีเมล็ดอยู่จำนวนมาก |
เมล็ด | เมล็ดมีลักษณะทรงรีเล็กๆ มีสีดำ กะเพราแดงจะมีกลิ่นแรงกว่ากะเพราขาว เมล็ดรูปไข่ เมื่อแก่หรือแห้งเมล็ดจะเป็นสีดำ |
การเพาะปลูก : กะเพราแดงเป็นพืชที่ เจริญได้ในดินแทบทุกชนิด ชอบดินร่วนซุยจะเจริญได้ดี การปลูกที่นิยมมี 2 วิธี การปลูกโดยใช้เมล็ดพันธุ์ ใช้เวลาเพาะต้นกล้าประมาณ 1 เดือน แล้วจึงทำการย้ายปลูก และการปลูกโดยใช้กิ่งชำ นำมาปลูกลงในแปลงดินที่เตรียมไว้ ให้มีระยะห่างกันประมาณ 30×30 เซนติเมตร กะเพราแดงเป็นพืชที่ชอบ การระบายน้ำดีน้ำไม่ขัง ชอบแสงแดด ต้องดูแลรดน้ำเสมอ และโดนแดดได้ตลอดวัน ต้องหมั่นรดน้ำให้ชุ่ม โดยรดน้ำเช้าเย็น จะทำให้เจริญเติบโตได้เร็ว กะเพราแดงมีอายุหลายปี ถ้ากะเพราแดงออกดอก ควรหมั่นตัดแต่งทิ้ง เพื่อให้กะเพราแดงมีทรงพุ่มที่แข็งแรง และมีอายุยืนยาว สามารถเก็บเกี่ยวไปได้เรื่อยๆ
การเจริญเติบโต : กะเพราแดง (Ka-Pow-Dang) เป็นไม้ล้มลุก สูงได้ถึง 1 เมตร เป็นพืชสมุนไพร เป็นพืชล้มลุก มีทรงพุ่ม มีอายุหลายปี เจริญเติบโตได้ง่าย
ประโยชน์ : ใบ มีน้ำมันหอมระเหยช่วยแก้หวัด แก้ไข้สันนิบาต ช่วยรักษาไข้มาลาเรีย เป็นยาอายุวัฒนะ แก้ท้องขึ้น แก้ท้องอืด แก้ท้องเฟ้อ ช่วยขับลม แก้ปวดท้อง ช่วยบำรุงธาตุ ช่วยรักษาโรคผิวหนัง ช่วยรักษากลากเกลื้อน แก้ลมพิษ แก้พิษตานซาง แก้คลื่นไส้อาเจียน ช่วยขับเหงื่อ ช่วยขับเสมหะ แก้ท้องร่วง ช่วยรักษาแผลในกระเพาะ ช่วยป้องกันโรคเบาหวาน ช่วยลดน้ำตาลในเลือด ช่วยลดไขมันในเลือด และช่วยขับน้ำนม และน้ำมันที่ได้จากใบกะเพราะยังสามารถยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อโรคบางชนิดโดยฆ่าเชื้อจุลินทรีย์บางชนิด และมีฤทธิ์ฆ่ายุง ใช้เป็นเครื่องปรุงแต่งกลิ่นอาหาร สำหรับเมล็ด พอกบริเวณตา เมื่อตามีผงหรือฝุ่นละอองเข้า และราก แก้โรคธาตุพิการ