พืชพรรณ ภายในโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริของมูลนิธิชัยพัฒนา

พืชพรรณ ภายในโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริของมูลนิธิชัยพัฒนา ฐานข้อมูลพืชพรรณไม้ภายในโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริของมูลนิธิชัยพัฒนา

แตงกวาญี่ปุ่น ชื่อสามัญ : Japanese cucumber

แหล่งที่มาและประวัติพันธุ์

ชื่อ : แตงกวาญี่ปุ่น

ชื่อวิทยาศาสตร์ : Cucumis sativus L.

ชื่อวงศ์ : Cucurbitaceae

ชื่อสามัญ : Japanese cucumber

ลักษณะประจำพันธุ์ทางพฤกษศาสตร์

ชนิด/ประเภท ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ : เป็นไม้เลื้อย มีอายุสั้น
ราก ราก มีระบบรากแก้ว แทงลึกลงดิน มีลักษณะกลมเล็กๆ มีรากแขนงรากฝอยเล็กๆ ออกรอบๆ มีสีน้ำตาล
ต้น ลำต้น มีลำต้นเดี่ยว เป็นเถาเลื้อย มีอายุสั้น มีอายุเพียงปีเดียว หรือฤดูเดียว ลำต้นมีลักษณะกลมๆ เถาแข็งและเหนียว มีสีเขียว ลำต้นม้วนพันสิ่งยึดเกาะได้ดี ลำต้นมีขนหยาบ
ใบ ใบ เป็นใบเดี่ยวแบบฝ่ามือ มีลักษณะรูปสามเหลี่ยม ปลายใบแหลม มีสีเขียว มีก้านใบยาวรองรับ ใบมีขนหยาบ
ดอก ดอก เป็นดอกเดี่ยว มี 2 เพศ ดอกเพศเมีย เป็นดอกเดี่ยว กลีบเลี้ยงสีเขียว กลีบดอกมีสีเหลือง ดอกตัวเมียมีลูกแตงกวาเล็กๆ ติดมาด้วย ดอกตัวผู้ เป็นดอกเดี่ยว ดอกเป็นช่อออกตามซอกใบ ก้านช่อดอกจะยาว ดอกตัวผู้มีเกสรยื่นออกเล็กน้อย และไม่มีลูกเล็กๆ ติดที่โคนดอก
ผล ผล มีลักษณะทรงกลม ทรงกระบอก เรียวยาว ผลอ่อนมีหนามสั้นๆ มีใส้ภายในผล อ่อนนุ่มลื่นคล้ายเจล มีเมล็ดเรียงกันอยู่ เนื้อแน่นฉ่ำน้ำ มีรสชาติกรอบอร่อย ผลมีสีเขียวเข้ม ผลมีขนาดใหญ่ยาวกว่า ใช้รับประทานเมื่อยังอ่อนมีเมล็ดอยู่ภายในผล จะมีหลายเมล็ดในผล ภายในไส้มีเมล็ดเรียงกันอยู่ เมล็ดมีลักษณะทรงยาวรี เมล็ดมีสีน้ำตาล

ข้อมูลอื่นๆ

การกระจายพันธุ์ : มีถิ่นกำเนิดแถบเอเชียและแอฟริกา



การขยายพันธุ์ : เพาะเมล็ด



 



การเพาะปลูก : นำเมล็ดพันธุ์ประมาณ 3-4 เมล็ด ใส่ลงในลงหลุมปลูก พร้อมกลบดินให้แน่นพอประมาณ ให้มีระยะห่างประมาณ 1.5×1 เมตร เมื่อต้นกล้ามีอายุได้ประมาณ 10 วัน ให้ถอนต้นที่ไม่สมบูรณ์ออก ให้เหลือแค่สองต้น เมื่อเริ่มทอดยอดหรือเลื้อย ให้เริ่มทำค้าง โดยการปักไม้ค้าง เพื่อที่จะให้ต้นพัน หรือเลื้อยขึ้นไปตามไม้ ในระยะแรกต้องมีการจับยอดมาพันไม้ค้างไว้



การเจริญเติบโต : แตงกวาญี่ปุ่นเป็นพืชที่ชอบน้ำ ต้องระบายน้ำดี น้ำไม่ขัง ชอบแสงแดด ต้องดูแลรดน้ำเสมอ และโดนแดดได้ตลอดวัน จะเจริญเติบโตได้ดี ต้องหมั่นรดน้ำให้ชุ่ม โดยรดน้ำเช้าเย็น จะทำให้ต้นโตได้เร็ว



ประโยชน์ : แตงกวามีเอนไซม์อีเรพซิน (erepsin) ช่วยย่อยโปรตีนได้ สรรพคุณของแตงกวา ขับปัสสาวะ แก้ไข้ กระหายน้ำ ใบแตงกวาแก้ท้องเสีย และช่วยลดความดันโลหิตสูง นิยมรับประทานเป็นผักสด แต่สามารถนำมาประกอบอาหารได้หลายชนิด เช่น ผัด ต้ม ดอง นึ่ง หรือนำมาคั้นน้ำเป็นเครื่องดื่ม หรือนำมาตกแต่งจานอาหาร



แตงกวา ช่วยป้องกันไม่ให้ร่างกายเกิดอาการขาดน้ำ เพราะในตัวของมัน มีน้ำเป็นส่วนประกอบถึง 90% ช่วยลดความร้อนในร่างกาย ทั้งภายนอก และภายใน สามารถล้างสารพิษที่มีอยู่ในร่างกายได้ และยังสามารถช่วยละลายก้อนแข็งที่อยู่ในไตได้ด้วย แตงกวา อุดมไปด้วยวิตามินมากมาย ทั้ง A B C และโฟลิค ช่วยลดการเกิดถุงใต้ตา และอาการตาบวม ช่วยลดความดันโลหิต และรักษาสมดุลในร่างกาย เช่นระดับน้ำตาลในเลือด และทำให้ระบบภูมิคุ้มกัน อยู่ในสภาพวะที่เหมาะสม ช่วยในการขับถ่าย แก้อาการท้องผูก ลดการเกิดกลิ่นปาก ด้วยการทำแตงกวาฝานแผ่นบางๆ อมไว้ที่เพดานปากซักครึ่งนาที สารจากแตงกวา จะสามารถฆ่าเชื้อแบคทีเรีย อันเป็นสาเหตุของกลิ่นปากได้ ช่วยบำรุงระบบการย่อยอาหารในร่างกาย เสริมสร้างการทำงานของระบบประสาท ลดกรดในกระเพาะอาหาร สำหรับคนที่เป็นโรคกระเพาะ แก้อาการนอนไม่หลับ มีสารต้านมะเร็ง มีฤทธิ์ ช่วยในการขับปัสสาวะ