พืชพรรณ ภายในโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริของมูลนิธิชัยพัฒนา

พืชพรรณ ภายในโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริของมูลนิธิชัยพัฒนา ฐานข้อมูลพืชพรรณไม้ภายในโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริของมูลนิธิชัยพัฒนา

แรดิช ชื่อสามัญ : Radish

แหล่งที่มาและประวัติพันธุ์

ชื่อ : แรดิช

ชื่อวิทยาศาสตร์ : Raphanus sativus L.

ชื่อวงศ์ : Brassicaceae

ชื่อสามัญ : Radish

ลักษณะประจำพันธุ์ทางพฤกษศาสตร์

ชนิด/ประเภท พืชหัว มีเปลือกสีแดง เนื้อด้านในสีขาว รสชาติเผ็ด
ราก ราก มีระบบรากแก้ว เป็นรากแก้วที่พองโต เรียกว่าหัว ไว้เก็บสะสมอาหาร หัวมีลักษณะทรงกลม หรือรูปไข่ ตามสายพันธุ์ มีเปลือกบางผิวเรียบ มีสีแดง สีขาว สีชมพู สีม่วง สีเหลือง สีดำ ตามสายพันธุ์ มีเนื้อแน่นฉ่ำน้ำ มีสีขาวนวล หรือสีชมพู มีรสชาติเผ็ดกรอบ มีกลิ่นฉุนเฉพาะตัว มีปลายรากแก้วยาวเล็กๆ แทงลงในดิน
ต้น ลำต้น เป็นพืชล้มลุกขนาดเล็ก มีอายุสั้นฤดูเดียว มีทรงพุ่ม ลำต้นเดี่ยวสั้นๆ เชื่อมอยู่ระหว่างรากกับใบ มีลักษณะกลมๆ เป็นข้อสั้นๆ จะมีก้านใบแทงออกจากโคนลำต้น มีสีเขียวอ่อน
ใบ ใบ เป็นใบเลี้ยงเดี่ยว แทงออกบริเวณตรงโคนของลำต้น ออกเรียงสลับรอบๆ มีก้านใบยาว มีลักษณะทรงกลมรี ปลายใบมนใหญ่ ขอบใบมีรอยหยัก ใบมีสีเขียว ดอก ออกเป็นช่อ ออกปลายยอด ก้านช่อดอกยาว มีดอกย่อยอยู่
ดอก ดอก มีลักษณะมีสี่แฉก มีขนาดเล็กๆ กลีบดอกสีชมพูหรือสีขาว ผล เป็นฝัก มีลักษณะทรงรี โคนอวบกลม ปลายรีแหลม มีขนาดเล็กๆ มีเมล็ดเรียงอยู่ในฝัก ฝักอ่อนสีเขียว ฝักแก่มีสีน้ำตาล เมล็ด อยู่ในฝัก มีลักษณะทรงกลมรี มีขนาดเล็กๆ เมล็ดแข็ง มีสีน้ำตาล

ข้อมูลอื่นๆ

การกระจายพันธุ์ : มีถิ่นกำเนิดในทวีปเอเชีย ในเมดิเตอร์เรเนียน ในแถบยุโรป เป็นที่นิยมปลูกกันทั่วไปในหลายประเทศ ที่มีอากาศเย็น ในประเทศไทยมีปลูกในภาคเหนือ มีปลูกหลายสายพันธุ์ มีประโยชน์และสรรพคุณ ทางยาหลายอย่าง สามารถรับประทานสดได้ ทำเครื่องดื่มได้ นำมาประกอบอาหารเมนูต่างๆ ได้หลายเมนู



การเพาะปลูก : เพาะต้นกล้าก่อน มีอายุประมาณ 2 อาทิตย์ แล้วย้ายต้นกล้าปลูก หรือหยอดเมล็ดพันธุ์ หยอดเมล็ดลงในหลุม หลังต้นกล้างอกให้ถอน ต้นกล้าออกไม่ให้แน่นเกินไป ให้มีระยะห่างประมาณ 5×15 ซม. จะสามารถเก็บผลผลิตได้ มีอายุประมาณ 30-35 วัน หลังปลูกลงแปลง ตามสายพันธุ์ ให้สังเกตที่ต้นจะโตเต็มที่ หัวไม่แก่ไม่อ่อนเกินไป ให้ถอนออกมาทั้งต้น แล้วล้างหัวให้สะอาด ให้ดินออกให้หมด แล้วนำใส่ในภาชนะที่เตรียมไว้ ให้ระวังอย่าให้โดนความร้อนหรือแสงแดด จะทำให้เหี่ยวได้



 



การเจริญเติบโต : เจริญเติบโตได้ในดินทุกชนิด ชอบดินร่วนซุย ดินร่วนปนทรายจะเจริญเติบโตได้ดี ชอบน้ำ ระบายน้ำดี น้ำไม่ขัง ชอบแสงแดด ต้องหมั่นรดน้ำทุกวัน โดยรดน้ำเช้าเย็น ให้โดนแดดตลอดวัน



ประโยชน์ : มีแคลเซียม มีเส้นใย มีวิตามินซี มีโพแทสเซียม มีวิตามินเอ มีวิตามินอี มีฟอสฟอรัส มีเหล็ก มีวิตามินบี1 มีวิตามินบี2 มีวิตามินบี3 มีเบตาแคโรทีน มีคาร์โบไฮเดรต มีโปรตีน มีโซเดียม มีแมกนีเซียม มีน้ำตาล มีแมงกานีส มีสังกะสี มีไขมัน ช่วยรักษาโรคดีซ่าน ช่วยรักษาโรคทางเดินหายใจ ช่วยขับปัสสาวะ เป็นยาระบาย ช่วยระบบขับถ่าย แก้ท้องผูก ช่วยรักษาโรคเลือดออกตามไรฟัน แก้หวัด แก้เจ็บคอ แก้คออักเสบ ช่วยรักษาโรคหลอดลมอักเสบ ช่วยขับเสมหะ มีอนุมูลอิสระ ช่วยชลอชรา ช่วยบำรุงร่างกาย ช่วยบำรุงผิวพรรณ ช่วยลดไขมันในเลือด ช่วยลดความดันโลหิตสูง