พืชพรรณ ภายในโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริของมูลนิธิชัยพัฒนา

พืชพรรณ ภายในโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริของมูลนิธิชัยพัฒนา ฐานข้อมูลพืชพรรณไม้ภายในโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริของมูลนิธิชัยพัฒนา

กะเพราขาว ชื่อสามัญ : white Holy basil, Thai basil

แหล่งที่มาและประวัติพันธุ์

ชื่อ : กะเพราขาว

ชื่อวิทยาศาสตร์ : Ocimum tenuiflorum L.

ชื่อวงศ์ : Lamiaceae

ชื่อสามัญ :  white Holy basil, Thai basil

ชื่ออื่นๆ : กำก้อขาว ห่อตูปลา ห่อกวอชู

ลักษณะประจำพันธุ์ทางพฤกษศาสตร์

ชนิด/ประเภท เป็นไม้ล้มลุก สูงได้ถึง 1 เมตร
ต้น ลำต้น เป็นเหลี่ยม มีขนต่อม ขนยาว หรือขนสั้นนุ่มตามลำต้น แผ่นใย ช่อดอก ใบประดับ ก้านดอก และกลีบเลี้ยง
ใบ ใบ มีสีเขียว เรียงตรงข้าม รูปรีหรือรูปขอบขนาน ยาว 0.5-4.5 ซม. ก้านใบยาว 0.5-1.5 ซม.
ดอก ช่อดอก แบบช่อกระจุกรอบแกนช่อห่างๆ คล้ายช่อเชิงลด ยาวได้ถึง 10 ซม. ใบประดับรูปไข่ ยาว 2-3 มม. ก้านดอกขยายในผล ยาว 2.5-4 มม. กลีบเลี้ยงและกลีบดอกรูปปากเปิด หลอดกลีบเลี้ยงยาว 1-1.5 มม. ขยายในผล ยาว 3-4 มม. กลีบบนกลม กลีบล่างรูปใบหอก กลีบดอกสีขาว หลอดกลีบดอกยาว 2-3 มม. กลีบบน 4 กลีบ กลีบล่าง 1 กลีบ ขนาดใหญ่กว่ากลีบบน เกสรเพศผู้สั้น 2 อัน ยาว 2 อัน ยื่นพ้นปากหลอดกลีบดอก โคนมีขนเป็นกระจุก รังไข่มี 4 พู
ผล ผล กลม
เมล็ด เมล็ดรูปไข่ เมื่อแก่หรือแห้งเมล็ดจะเป็นสีดำ

ข้อมูลอื่นๆ

การกระจายพันธุ์ : พบทั่วไปในเอเชียเขตร้อน เป็นวัชพืชและปลูกเป็นผักสวนครัว มีสรรพคุณร้อน ชาวฮินดูถือเป็นไม้ศักดิ์สิทธิ์ นิยมปลูกไว้ตามบริเวณที่สักการะบูชา



การเพาะปลูก : กะเพราขาวเป็นพืชที่ เจริญได้ในดินแทบทุกชนิด ชอบดินร่วนซุยจะเจริญได้ดี การปลูกที่นิยมมี 2 วิธี การปลูกโดยใช้เมล็ดพันธุ์ ใช้เวลาเพาะต้นกล้าประมาณ 1 เดือน แล้วจึงทำการย้ายปลูก และการปลูกโดยใช้กิ่งชำ นำมาปลูกลงในแปลงดินที่เตรียมไว้ ให้มีระยะห่างกันประมาณ 30×30 เซนติเมตร กะเพราขาวเป็นพืชที่ชอบ

การระบายน้ำดีน้ำไม่ขัง ชอบแสงแดด ต้องดูแลรดน้ำเสมอ และโดนแดดได้ตลอดวัน ต้องหมั่นรดน้ำให้ชุ่ม โดยรดน้ำเช้าเย็น จะทำให้เจริญเติบโตได้เร็ว กะเพราขาวมีอายุหลายปี ถ้ากะเพราขาวออกดอก ควรหมั่นตัดแต่งทิ้ง เพื่อให้มีทรงพุ่มที่แข็งแรง และมีอายุยืนยาว สามารถเก็บเกี่ยวไปได้เรื่อยๆ



การเจริญเติบโต : กะเพราขาว เป็นไม้ล้มลุก สูงได้ถึง 1 เมตร เป็นพืชสมุนไพร เป็นพืชล้มลุก มีทรงพุ่ม มีอายุหลายปี เจริญเติบโตได้ง่าย



ประโยชน์ : ใบ มีน้ำมันหอมระเหยช่วยขับลม แก้ท้องอืด ท้องเฟ้อ ปวดท้อง บำรุงธาตุ แก้โรคผิวหนัง กลากเกลื้อน และน้ำมันที่ได้จากใบกะเพราะยังสามารถยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อโรคบางชนิดโดยฆ่าเชื้อจุลินทรีย์บางชนิด และมีฤทธิ์ฆ่ายุง ใช้เป็นเครื่องปรุงแต่งกลิ่นอาหาร สำหรับเมล็ด พอกบริเวณตา เมื่อตามีผงหรือฝุ่นละอองเข้า และราก แก้โรคธาตุพิการ