พืชพรรณ ภายในโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริของมูลนิธิชัยพัฒนา

พืชพรรณ ภายในโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริของมูลนิธิชัยพัฒนา ฐานข้อมูลพืชพรรณไม้ภายในโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริของมูลนิธิชัยพัฒนา

พันธุ์ไม้ และพันธุ์ผัก ภาคเหนือ

มะเขือยาวม่วง ชื่อสามัญ : Purple Eggplant, Long Skinny Eggplant

แหล่งที่มาและประวัติพันธุ์

ชื่อ : มะเขือยาวม่วง

ชื่อวิทยาศาสตร์ : Solanum melongena L.

ชื่อวงศ์ : Solanaceae

ชื่อสามัญ : Purple Eggplant, Long Skinny Eggplant

ลักษณะประจำพันธุ์ทางพฤกษศาสตร์

ชนิด/ประเภท เป็นไม้พุ่ม
ราก ราก ประกอบด้วยรากแก้ว และรากแขนง
ต้น ลำต้น เป็นไม้ล้มลุกอายุข้ามปี ลำต้นแตกกิ่งตั้งแต่ระดับโคนต้น ลำต้นมีการแตกกิ่งมาก จนแลดูเป็นทรงพุ่มหนา สูงประมาณ 50-150 เซนติเมตร เปลือกลำต้นบาง มีสีม่วงหรือสีเขียว ส่วนเนื้อไม้ด้านใน เป็นไม้เนื้ออ่อน สีขาว เปราะหักง่าย
ใบ ใบ แตกออกเป็นใบเดี่ยวๆ เรียงสลับกันบนกิ่ง มีก้านใบยาวประมาณ 5-8 เซนติเมตร แผ่นใบมีขนาดใหญ่ กว้างประมาณ 8-15 เซนติเมตร ยาวประมาณ 15-20 เซนติเมตร แผ่นใบเรียบ มีขนปกคลุม ขนบนใบด้านล่างหนากกว่าด้านบน และมีสีเทา แผ่นใบบาง ฉีกขาดได้ง่าย ขอบใบเว้าลึกเป็นช่วงๆ และโค้งงุ้มเข้าหากลางใบ แผ่นใบมีเส้นกลางใบนูนสีม่วง มองเห็นได้ชัดเจน
ดอก ดอก เป็นดอกสมบูรณ์เพศ ออกได้ทั้งแบบดอกเดี่ยวหรือดอกช่อ ขึ้นอยู่กับสายพันธุ์ ดอกเกดบริเวณซอกใบในทุกส่วนที่มีใบเติบโต ดอกประกอบด้วยก้านดอกทรงกลม ยาวประมาณ 3-8 เซนติเมตร ถัดมาเป็นตัวดอกที่มีกลีบเลี้ยงสีม่วงเข้ม จำนวน 5 กลีบ หุ้มรอบฐานดอก ถัดมาเป็นกลีบดอก จำนวน 5 กลีบ ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางดอก ประมาณ 4-5 เซนติเมตร แผ่นกลีบดอกมีสีม่วง โคนกลีบ และกลางกลีบเชื่อมติดกัน ส่วนปลายกลีบแยกเป็นแฉก แต่ละกลีบมีกลางกลีบแหลม เป็นรูปสามเหลี่ยม ถัดมาบริเวณกลางดอก จะเป็นเกสรตัวผู้ที่มีลักษณะเป็นแท่งยาวสีเหลือง จำนวน 8 อัน ส่วนตรงกลางของเกสรตัวผู้จะเป็นก้านเกสรตัวเมียที่มีลักษณะเป็นแท่งยาว จำนวน 1 อัน สีเหลือง และยาวยื่นกว่าเกสรตัวผู้ ส่วนด้านล่างบริเวณฐานดอกเป็นรังไข่ ทั้งนี้ ดอกจะบานในช่วงเช้า และบานติดต่อกันนาน 2-3 วัน โดยการผสมเกสรมักเกิดขึ้นในช่วงเช้าจนถึงบ่าย หลังจากผสมเกสรแล้ว กลีบดอกจะห่อโค้งปิดไว้ จากนั้น เมื่อผลอ่อนโตแล้ว 1-2เซนติเมตร จึงร่วงลงดิน แต่กลีบเลี้ยงจะยังอยู่ติดกับผลขนาดเล็ก
ผล ผล อาจเป็นผลเดี่ยวหรือหลายในช่อผลเดียวกัน ผลมะเขือม่วงมีทั้งแบบทรงกลมหรือเป็นรูปไข่ยาว ขึ้นอยู่กับสายพันธุ์ และยาวได้ประมาณ 5-30 เซนติเมตร ก้านผลมีขนาดใหญ่ ยาวประมาณ 3-8 เซนติเมตร ถัดมาเป็นกลีบเลี้ยง จำนวน 5 กลีบ หุ้มบริเวณขั้วผล ส่วนตัวผลที่มีลักษณะเรียวยาว จะเรียวเล็กบริเวณใกล้ขั้วผล และขยายใหญ่ที่ท้าย เปลือกผลมีสีม่วงทั่วทั้งผล และเป็นสีม่วงตลอดอายุของผล เปลือกค่อนข้างหนามาก และติดเป็นส่วนเดียวกันกับเนื้อผล เมล็ดมีลักษณะกลม และแบนราบ ขนาดเมล็ดประมาณ 2-3 มิลลิเมตรเมล็ดในผลอ่อนจะมีสีขาว เมื่อผลแก่เปลือกเมล็ดเปลี่ยนเป็นสีเหลืองอ่อนหรือสีน้ำตาลอ่อน

ข้อมูลอื่นๆ

การกระจายพันธุ์ : มีถิ่นกำเนิดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ได้มีปลูกกันในหลายประเทศทั่วโลก ในประเทศไทยมีปลูกหลายสายพันธุ์ มีประโยชน์และสรรพคุณ ทางยาหลายอย่าง ใช้ผลอ่อนประกอบอาหารเมนูต่างๆ ได้หลายเมนู



การเพาะปลูก : วิธีเพาะกล้า การเพาะกล้ามะเขือม่วง อาจทำได้ในแปลงเพาะหรือเพาะในกระบะเพาะชำ การเพาะในแปลงเพาะ ให้ไถพรวนแปลง กว้างประมาณ 1 เมตร ยาวตามปริมาณที่ต้องการเพาะ จากนั้น โรยรองพื้นด้วยปุ๋ยคอก และปุ๋ยยูเรีย ก่อนคลุกผสมดินให้เข้ากัน จากนั้น หว่านเมล็ด และคราดเกลี่ยหน้าดินกลบเล็กน้อย แล้วรดน้ำให้ชุ่ม ส่วนการเพาะในกระบะเพาะ ให้ผสมดินด่วนร่วมกับปุ๋ยคอก อัตราส่วน 1:3 หรือใช้วัสดุอินทรีย์อื่นผสมร่วม เช่น แกลบดำ และขุยมะพร้าว จากนั้น หยอดเมล็ดลงหลุมกระบะ 2 เมล็ด/หลุม เกลี่ยดินกลบเล็กน้อย ก่อนรดน้ำให้ชุ่ม เมื่ออายุกล้าได้ประมาณ 10-15 วัน หรือมีใบจริงแล้ว 3-5 ใบ ค่อยถอนกล้าย้ายลงปลูกในแปลง



การเตรียมแปลงปลูก : แปลงปลูกควรเตรียมแปลงด้วยการไถพรวนดิน 2 รอบ พร้อมกำจัดวัชพืชออกให้หมด ทั้งนี้ ก่อนไถรอบที่ 2 ให้หว่านรองพื้นด้วยปุ๋ยคอก อัตรา 3-4 ตัน/ไร่ จากนั้น ไถยกร่อง ระยะห่างของร่องประมาณ 80-100เซนติเมตร ทั้งนี้ อาจไม่จำเป็นต้องไถยกร่องก็ได้ตามความสะดวก



การปลูก : การปลูกมะเขือยาวม่วง นิยมปลูกในต้นฝนจนถึงก่อนถึงปลายฝน แต่พื้นที่ชลประทานปลูกได้ตลอดฤดู การย้ายกล้าปลูก ให้รดน้ำจนชุ่มก่อน และลงปลูกหลังย้ายทันที ก่อนย้ายกล้าให้ขุดหลุมปลูก ลึกประมาณ 8-15 เซนติเมตร ระยะห่างระหว่างแถวสำหรับไถยกร่องหรือไม่ยกร่อง ประมาณ 80-100 เซนติเมตร ระยะห่างระหว่างหลุมหรือต้น ประมาณ 80-100 เซนติเมตร เช่นกัน พื้นที่ 1 ไร่ ปลูกได้ประมาณ 1,100-1,300 ต้น จากนั้น นำกล้ามะเขือลงปลูก กลบโคนต้น และรดน้ำให้ชุ่ม



การให้น้ำ : หลังการปลูก 10-15 วันแรก ควรให้น้ำทุกวัน จนต้นตั้งตัวได้ จากนั้น ลดเหลือ 3-4 ครั้ง/อาทิตย์



การใส่ปุ๋ย : ให้ใส่ปุ๋ย 2 ครั้ง คือ ครั้งแรกหลังปลูก 20-25 วัน ให้ใส่ปุ๋ยคอก 2 กำมือ/ต้น ร่วมกับปุ๋ยสูตร 15-15-15 ประมาณ 1-2 หยิบมือ/ต้น ส่วนครั้งที่ 2 ใส่เมื่ออายได้ประมาณ 45-50 วัน ด้วยปุ๋ยเคมีสูตร 12-12-24 ในอัตราเดียวกัน



การกำจัดวัชพืช : ให้กำจัดวัชพืชอย่างน้อยเดือนละ 1 ครั้ง จนต้นมีอายุได้ ประมาณ 3 เดือน จึงปล่อยตามธรรมชาติ



การเก็บผลผลิต : มะเขือม่วงมีอายุเก็บเกี่ยวประมาณ 45-60 วัน หลังปลูก และเก็บผลได้ต่อเนื่องนาน 4-5 เดือน ทั้งนี้ ควรใช้กรรไกรตัดขั้วผลแทนมือเด็ด เพื่อป้องกันยอดเสียหาย และลำต้นถอน



การเจริญเติบโต : เป็นมะเขือชนิดหนึ่ง เป็นพืชผักสมุนไพร เป็นไม้ทรงพุ่มขนาดเล็กมะเขือยาวเป็นพืชที่เจริญได้ ในดินแทบทุกชนิด ชอบดินร่วนปนทรายจะเจริญได้ มะเขือยาวเป็นพืชที่ชอบน้ำ ต้องระบายน้ำดี น้ำไม่ขัง ชอบแสงแดด ต้องดูแลรดน้ำเสมอ และโดนแดดได้ตลอดวัน ต้องหมั่นรดน้ำให้ชุ่ม โดยรดน้ำเช้าเย็น ระยะแรกต้องให้น้ำทุกวัน ขณะที่ช่วงติดดอกติดผล ต้องให้น้ำทุกวัน หลังจากผลเริ่มติดผล ก็ให้น้ำต่อไปเรื่อยๆ



ประโยชน์ : มีวิตามินซี มีวิตามินเค มีโพแทสเซียม มีวิตามินเอ มีแคลเซียม มีฟอสฟอรัส มีเหล็ก มีวิตามินบี1 มีวิตามินบี2 มีวิตามินบี3 มีวิตามินบี5 มีวิตามินบี6 มีวิตามินบี9 มีเบตาแคโรทีน มีคาร์โบไฮเดรต มีโปรตีน มีพลังงาน มีไขมัน มีเส้นใยช่วยรักษาโรคความดันโลหิตสูง ช่วยรักษาโรคลักปิดลักเปิด ช่วยรักษาโรคหลอดเลือดแข็งตัว มีอนุมูลอิสระ ช่วยลดคอเรสเตอรอล ช่วยรักษาโรคหลอดเลือดหัวใจตีบ ช่วยรักษาโรคเลือดออกตามไรฟัน ช่วยบำรุงกระดูก ช่วยบำรุงฟัน ช่วยบำรุงประสาท ช่วยบำรุงสมอง ช่วยขับเสมหะ ช่วยรักษาปวดฟัน แก้บิด ช่วยระบบขับถ่าย ช่วยรักษาแผลในกระเพาะ ช่วยขับปัสสาวะ ช่วยรักษาฝี ช่วยรักษาโรคหนองใน