ชื่อ : กวางตุ้งฮ่องเต้
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Brassica rapa L. (Brassica rapa Chinensis Group)
ชื่อวงศ์ : Brassicaceae
ชื่อสามัญ Bok Choy
ราก | รากอยู่ในระดับตื้น |
ต้น | ลำต้น ตั้งตรง มีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 1.4-1.8 เซนติเมตร สูงประมาณ 43-54 เซนติเมตร |
ใบ | ใบเป็นใบเดี่ยวมีสีเขียวตรงกลางจะเว้าเข้า ส่วนใบจริงจะแตกเป็นกระจุกที่บริเวณโคนต้น ลักษณะเรียบไม่ห่อตัว |
ดอก | ช่อดอกยาว 50-90 เซนติเมตร ดอกตูมรวมกลุ่มอยู่บนยอดช่อดอก ดอกบานจากด้านล่างขึ้นไปหาด้านบน |
การกระจายพันธุ์ : ถิ่นกำเนิดในประเทศจีน ญี่ปุ่นและเอเชียกลาง
การเพาะปลูก : การเตรียมดิน ไถพรวนดินลึกประมาณ 15-20 เซนติเมตร ตากดินไว้ 7 วัน แล้วย่อยดินให้ละเอียดใส่ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมัก อัตรา 2,000 กิโลกรัม/ไร่ ปุ๋ยสูตร 15-15-15 อัตรา 50 กิโลกรัม/ไร่ก่อนปรับดินให้เรียบ พร้อมยกแปลงสูง 20 เซนติเมตร x กว้าง 1 เมตร x ความยาตามขนาดพื้นที่
วิธีปลูก จะใช้วิธีหว่าน เริ่มจากการนำเมล็ดพันธุ์ 1 ส่วนผสมกับทรายละเอียด 3 ส่วน จากนั้นคลุมฟางรดน้ำตามให้ชุ่ม โดยใช้เมล็ดพันธุ์ 1 กิโลกรัม/ไร่ เมื่อต้นกล้าอายุได้20วัน หรือมีใบจริง 4 -5 ใบ จึงถอนแยกให้มีระยะห่างระหว่างต้น 20-30 เซนติเมตร
การให้น้ำ กวางตุ้งเป็นพืชที่ชอบน้ำมาก จึงจะสามารถเจริญเติบโตได้ดี ควรรดน้ำวันละ 1-2 ครั้ง (เช้าและเย็น) โดยใช้ลักษณะการฉีดทำเป็นฝอยในการรดน้ำ ต้องไม่ขาดน้ำเพราะจะทำให้หยุดชะงักการเติบโต
การใส่ปุ๋ย ใส่ปุ๋ยยูเรีย (46-0-0) หรือ 25-7-7 อัตรา 30 กิโลกรัม / ไร่ เพื่อเร่งการเจริญเติบโตของก้านและใบ หรือใช้ปุ๋ยสูตรใกล้เคียงในอัตรา 30 -50 กิโลกรัม / ไร่ โดยหลังจากใส่ปุ๋ยทุกครั้งจะต้องรดน้ำให้ชุ่มทันทีอย่าปล่อยให้ปุ๋ยตกค้างที่ใบเพราะจะทำให้ผักเสียหายได้
การเจริญเติบโต :
ประโยชน์ : กวางตุ้งฮ่องเต้ เป็นผักที่มีวิตามินสูง โดยเฉพาะอย่างยิ่งวิตามินเอ วิตามินซี นอกจากนั้นยังมีธาตุอาหารพวกแคลเซียม และฟอสฟอรัสสูง นิยมนำมาผัดกับเนื้อสัตว์ ผัดน้ำมันหอย หรือต้มเป็นแกงจืด รสชาติหวาน และกรอบช่วยลมความเสี่ยงจากการเป็นโรคมะเร็ง โรคกล้ามเนื้อเสื่อม และโรคหลอดเลือดหัวใจตีบ